Search

เปิดเมนู Vienna Coffee ตัวแม่ 'กาแฟ' สายวิปครีม - กรุงเทพธุรกิจ

masaolahragalagi.blogspot.com

จุดกำเนิดของคาเฟ่แห่งแรกในเวียนนา ที่บ่มเพาะวิถีแห่งวัฒนธรรมการดื่ม “กาแฟ” และรังสรรค์ ‘Vienna Coffee’ เมนูต้นตำรับตระกูลกาแฟสายวิปครีมเจ้าแรกของโลก

กรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรียนั้น มีชื่อเสียงเป็นที่ปรากฎชัดในวัฒนธรรมกาแฟอันชวนหลงใหลและเข้มขลัง เป็นเมืองกาแฟหอมกรุ่นระดับโลก ตีคู่กันมาอย่างสูสีกับชาติเพื่อนบ้านทางตอนใต้ของยุโรปอย่างอิตาลี หากว่าเปรียบอิตาลีเป็นผู้ให้กำเนิดกาแฟสายนมแล้วไซร้ ออสเตรียก็จัดว่าเป็นต้นตำรับตระกูลกาแฟสายวิปครีมเจ้าแรกของโลก พูดได้เต็มปากเลยว่า เป็นตัวแม่ในสายนี้อย่างแท้จริง

ผ่านมาแล้วเกือบ 350 ปีมาแล้วที่กองทัพออตโตมันปิดล้อมกรุงเวียนนา ในยุทธการ ‘Battle of Vienna’ ก่อนถอนทัพออกไปพร้อมทิ้งกระสอบบรรจุเมล็ดกาแฟเอาไว้ เป็นจุดกำเนิดของการเปิดร้านกาแฟแห่งแรกขึ้นในเมืองหลวงออสเตรีย บ่มเพาะวิถีแห่งวัฒนธรรมการดื่มกาแฟขึ้นมา ก่อร่างสร้างคาเฟ่ต้นแบบของโลก รังสรรค์สูตรกาแฟหลายตัวที่ยังมีชีวิตโลดแล่น อวดโฉมอยู่บนหน้าเมนูของคอฟฟี่เฮ้าส์ในกรุงเวียนนา รวมถึงร้านกาแฟทุกทวีปทั่วโลก

159378540272

บรรยากาศคลาสสิกของร้านกาแฟในเวียนนา ในภาพคือร้าน Cafe Landtmann ภาพ : Andrea Schaufler

  • Wiener Melange

บางครั้งเรียกกันสั้นๆ ว่า Melange เมนูกาแฟเวียนนาที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ถึงกับเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของกรุงเวียนนาเลยทีเดียว เป็นชื่อกาแฟที่ค่อนข้างแปลก เพราะเกิดจากคำในภาษาเยอรมันและฝรั่งเศสมารวมเข้าด้วยกัน หมายถึง ‘Viennese Blend’ หรือการผสมกลมกลืนแห่งเวียนนา เกิดจากการผสมผสานกันระหว่างกาแฟดำเข้มข้นกับฟองนมในสัดส่วนเท่าๆ กัน

เป็นกาแฟดั้งเดิมที่เสิร์ฟกันตามร้านกาแฟในกรุงเวียนนามาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 และด้วยส่วนผสมที่คล้ายกับคาปูชิโน’ (Cappuccino ) ของอิตาลี ทำให้หลายคนพลันตั้งคำถามว่าเมนูตัวไหนเกิดก่อนกัน หรือว่าใครเหมือนใครกันแน่ แต่ที่น่าสนใจก็คือ ตัวสูตรของ Wiener Melange นั้น แม้กระทั่งในคอฟฟี่เฮ้าส์ของเวียนนาก็ไม่เหมือนกัน ต่างกันไปนิดหน่อย เช่น บางร้านใช้เอสเพรสโซ่กับนมร้อนแล้วหยอดหน้าด้วยฟองนมก่อนโรยผงโกโก้ บางร้านก็โปะฟองนมจนพูนล้นแก้วออก ทั้งบางเจ้าก็เพิ่มน้ำร้อนเข้าไปในช้อตเอสเพรสโซอีกต่างหาก

ขณะที่สูตรของ Cafe Sperl หนึ่งในร้านกาแฟอันเก่าแก่ของเวียนนาซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมนั้น ใช้กาแฟดำกับนมร้อนอย่างละครึ่งแก้ว แล้วโปะหน้าด้วยฟองนมอีกชั้น

159378484410

Wiener Melange ใครไปเวียนนาก็ต้องลอง ภาพ : Dr. Bernd Gross

  • Einspaenner

กาแฟคลาสสิคอีกตัวของเวียนนา เป็นหนึ่งในตระกูลกาแฟสายวิปครีมแบบดั้งเดิม ใช้เอสเพรสโซเป็นฐานแล้วใส่วิปครีมลงไปในแก้ว ชั้นของวิปครีมจะหนาแน่นขนาดไหนขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละร้าน

ว่ากันว่าชื่อกาแฟถูกตั้งขึ้นตามชื่อเรียก ‘รถม้าในภาษาท้องถิ่นซึ่งปัจจุบันกลายเป็นพาหนะนำพานักท่องเที่ยวนั่งชมเมือง หลังมีการออกแบบเครื่องดื่มนี้ขึ้นมาสำหรับสารถีขับรถโดยเฉพาะ เนื่องจากวิปครีมที่ใส่ลงในกาแฟนั้น ช่วยเก็บความร้อนของน้ำกาแฟเอาไว้ ทั้งยังป้องกันน้ำกาแฟไม่ให้ไหลหกได้โดยง่ายขณะขับรถม้าอีกด้วย

ต้องนับเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารจริงๆ จึงจะคิดวิธีการนี้ออก สามารถสร้างสรรค์เครื่องดื่มให้สารถีที่มือหนึ่งใช้ขับรถม้าไปตามถนน มืออีกข้างถือกาแฟจิบต้านทานความเยือกเย็นในฤดูหนาว

Einspanner นิยมเสิร์ฟในแก้วทรงสูง แล้วโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งหรือผงโกโก้บนหน้าวิปครีม บางสูตรก็มีการเติมเหล้ารัมลงไปด้วย วิธีดื่มนั้น ควรจิบช้าๆ ให้น้ำกาแฟค่อยๆ ไหลแทรกเนื้อวิปครีมผ่านเข้าสู่ริมฝีปาก จึงจะได้รสชาติครบเครื่องเต็มอิ่ม ทั้งขมเข้ม หอมกรุ่น หวานมัน

159378498832

Einspaenner กาแฟวิปครีมแบบเวียนนาอันโด่งดัง ภาพ : lifeforstock/freepik.com

(https://www.freepik.com/free-photo/vienna-coffee-cup_3521507.htm#page=1&query=vienna&position=22)

  • Franziskaner

เป็นกาแฟสัญชาติออสเตรียอีกเมนูที่อยู่ในสายวิปครีม ประกอบด้วยช้อตเอสเพรสโซ, นมร้อน กับวิปครีมที่นุ่มแน่นคับปากแก้ว บางสูตรก็นิยมประดับประดาหน้าแก้วด้วยเกล็ดช็อคแลตโกหรือโรยด้วยผงโกโก้

ที่มาของชื่อเมนูกาแฟตัวนี้ ตำนานเล่าว่านำมาจากชื่อนักบวชในคณะ ‘ฟรันซิสกันก็เพราะว่าสีสันของเครื่องดื่มดูคล้ายกับสีน้ำตาลอ่อนของเสื้อคลุมที่นักบวชคณะนี้สวมใส่ การตั้งชื่อกาแฟในลักษณะนี้ก็เกิดขึ้นในอิตาลีเหมือนกัน ก็ชื่อของคาปูชิโนนั่นไงครับ มาจากสีน้ำตาลของเสื้อคลุมที่สวมใส่โดยนักบวชคณะกาปูชินแต่สูตรกาแฟนมอิตาลีนั้น มีเอสเพรสโซ, นมร้อน และฟองนม ไม่เติมวิปครีม

  • Wiener Eiskaffee

มาถึงเมนูกาแฟหวานเย็นกันบ้าง ชื่อกาแฟตัวนี้แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า ‘Vienna Iced Coffee’ ไม่ได้หมายถึงกาแฟใส่น้ำแข็งนะครับ แต่คือ กาแฟใส่ไอศกรีม ที่เวียนนานำมาจากบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างเยอรมันอีกที เดิมใช้กาแฟดำเข้มข้น ตามด้วยไอศกรีมวานิลา หยอดหน้าด้วยวิปครีมรสจืด เสิร์ฟในแก้วทรงสูง พร้อมด้วยช้อนและหลอด ยุคสมัยนี้หันมาใช้เอสเพรสโซที่ให้ความหอมเข้มมากกว่าแทน บางสูตรก็ผสมช็อคโกแลต หรือนมร้อนลงไปด้วย นิยมดื่มกันในฤดูร้อนเพื่อเพิ่มความสดชื่น

เห็นสูตรกาแฟชนิดนี้แล้วทำให้นึกไปถึงกาแฟจากอิตาลี นั่นก็คือ อัฟโฟกาโต้ (Affogato) เอสเพรสโซใส่ไอศกรีมเจลาโต้รสวานิลา ที่สามารถจัดให้เป็นได้ทั้งเมนูเครื่องดื่มและของหวาน

กาแฟจากเยอรมันอีกชนิดที่แพร่หลายในออสเตรีย ก็คือ Pharisaer สูตรประกอบด้วยเอสเพรสโซ น้ำตาล เหล้ารัม และวิปครีม

159378535368

แก้วนี้เป็น Pharisaer มีเอสเพรสโซ น้ำตาล เหล้ารัม และวิปครีม ภาพ : MaikeBred

  • Kleiner Brauner / Grosser Brauner

ชื่อกาแฟนี้มีความหมายนัก...ถอดความเป็นภาษาไทยได้ว่า ‘น้ำตาลเล็กกับน้ำตาลใหญ่ตามลำดับ ถ้าเป็นชื่อแรกก็ใช้เอสเพรสโซหนึ่งช้อต แล้วเติมนมร้อนหรือวิปครีมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เสิร์ฟในถ้วยเซรามิคไซส์เล็ก ส่วนชื่อหลังก็ใช่เลย...หมายถึงใช้เอสเพรสโซสองช้อตนั่นเอง เดิมทีเมนูนี้ใช้กาแฟดำที่ต้มจนเข้มข้นไม่แพ้เอสเพรสโซ

นิยมเสิร์ฟแบบยกใส่ถาดมาเป็นชุด ประกอบด้วยแก้วเอสเพรสโซ เหยือกนม และน้ำเปล่า เพื่อให้ลูกค้าเติมนมลงในกาแฟตามใจชอบ

เป็นกาแฟพิเศษ อีกชนิดที่มีประวัติความเป็นมาเกี่ยวข้องกับ ‘รถม้าเวียนนาเนื่องจากสารถีขับรถม้าเป็นแฟนคลับตัวยงของเครื่องดื่มนี้ แล้วคำเรียกสารถีในภาษาท้องถิ่นก็คือ Fiaker นั่นเอง น่าจะเป็นเมนูที่เรียกความกระชุ่มกระชวยได้ดีทีเดียว เนื่องจากมีการเติมบรั่นดีพื้นเมืองลงไปด้วย ที่นิยมใช้กันก็เป็นบรั่นดีหมักจากเชอร์รี่ เรียกกันว่า Kirschwasser แต่บางโอกาสก็ใช้บรั่นดีหมักจากลูกพลัมเช่นกัน

สูตรนี้ประกอบด้วยเอสเพรสโซหรือกาแฟดำเข้มข้น เติมน้ำตาล ตามด้วยบรั่นดี แล้วที่ขาดไม่ได้เลย...หยอดหน้าด้วยวิปครีม ต่อด้วยโรยผงโกโก้ ในบางร้านเพิ่มสีสันด้วยการใส่ ‘เชอรี่มาราชิโน่กลายเป็นค็อกเทลกาแฟดีๆ นี่เอง เมนูนี้ถ้าเสิร์ฟเป็นกาแฟเย็น มีชื่อว่า ‘Mazagran’

ส่วนถ้าเป็นกาแฟดำใส่วิปครีมเพิ่มเหล้าแอปริคอท ก็เรียกว่า Biedermeier

159378524240

Kleiner Brauner ใช้เอสเพรสโซ เติมนมร้อนหรือวิปครีมเล็กน้อย ภาพ : Christos Vittoratos

  • Maria Theresia

กาแฟเมนูนี้ตั้งชื่อตาม ‘มาเรีย เทเรซาองค์รัชทายาทหญิงแห่งออสเตรีย ผู้ก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดินีแห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ทรงเป็นหนึ่งในประมุขผู้ทรงอำนาจที่สุดของยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 18 เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ไม่ใครบอกได้ว่ากาแฟเกิดขึ้นในช่วงดังกล่าวด้วยหรือไม่ เชื่อว่าเป็นเรื่องในภายหลังมากกว่า

จัดเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในคอฟฟี่เฮ้าส์เวียนนา ด้วยการนำ เหล้าหวานกลิ่นส้ม เติมเข้าไปในเอสเพรสโซ่ โปะหน้าด้วยวิปครีม

  • Kaisermelange

จัดอยู่ในขั้นหนึ่งเดียวที่พิเศษมากๆ ของกาแฟเวียนนา แต่ปัจจุบันหาชิมได้ค่อนข้างยากแล้วเมนูนี้ เดิมใช้กาแฟดำเข้มข้นเป็นฐาน แล้วนำเฉพาะ ‘ไข่แดงกับน้ำผึ้งมาตีให้เข้ากัน ก่อนนำมาใส่ในกาแฟดำ จะเติมวิปครีมด้วยหรือไม่ก็ได้ บางสูตรก็ใส่คอนยัคหรือเหล้ารัมผสมลงไปด้วย เช่นเคย...ยุคนี้เปลี่ยนมาใช้เอสเพรสโซ่แทน เช่นเดียวกับเมนูอื่นๆ

ที่มาของชื่อ Kaisermelange ซึ่งแปลเป็นไทยประมาณเบลนด์แห่งจักรพรรดินั้น ผู้ตั้งชื่อเห็นว่า เนื้อครีมที่หวานนุ่ม บวกกับความหอมมันของกาแฟ เหมาะที่จะเสิร์ฟเป็นเครื่องดื่มให้แก่จักรพรรดิยิ่งนัก

ส่วนเมนู ‘Mozart’ ที่ชื่อเหมือน ว็อล์ฟกัง อมาเดอุส โมทซาร์ท นักประพันธ์ดนตรีคลาสสิกระดับโลกชาวออสเตรีย ก็เป็นกาแฟเอสเพรสโซที่เติมบรั่นดี วิปครีม โรยหน้าด้วยถั่วพิสตาชิโอบด

อีกเมนูที่น่าหลงใหลแต่เปี่ยมไปด้วยปริศนาก็คือ ‘Kapuziner’ ในเวียนนา ที่ไม่เหมือน ‘Cappuccino’ ในโรมหรือเนเปิล ...แม้ชื่อคล้ายกัน แต่ก็มีส่วนผสมต่างกันไปบ้าง ส่วนที่ยังไม่ลงตัวลงรอยกันก็คือ ต่างฝ่ายต่างอ้างความเป็นเจ้าของที่มาชื่อกาแฟเพราะต่างก็เชื่อว่าชื่อกาแฟของตนนั้นมาจากสีน้ำตาลของเสื้อคลุมนักบวชนิกายกาปูชิน แต่ใครล่ะเป็นเจ้าแรก หรือเป็นเรื่องบังเอิญที่มีชื่อคล้ายกัน

159378517589

Kleiner Brauner ใช้เอสเพรสโซ เติมนมร้อนหรือวิปครีมเล็กน้อย ภาพ : Christos Vittoratos

อย่างไรก็ตาม ถ้าอยู่ในร้านกาแฟเวียนนาแล้วสายตาเจอเข้ากับชื่อ Kapuziner คือ เอสเพรสโซหยอดหน้าด้วยวิปครีม ต่างไปจากในอิตาลีที่ประกอบด้วยเอสเพรสโซ นมร้อน และฟองนม ส่วนกาแฟใส่นมอย่างลาเต้ของอิตาลี ในเวียนนาเรียกว่า ‘Milchkaffee’

นอกจากเมนูต้นตำรับแล้ว ในร้านกาแฟเวียนนายังเสิร์ฟกาแฟอีกหลายชนิดที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ส่วนใหญ่มีการปรับชื่อเปลี่ยนเสียงให้เรียกกันในภาษาท้องถิ่น เช่น Kleiner Schwarzer ก็คือเอสเพรสโซหนึ่งช้อต และ Grosser Schwarzer คือดับเบิ้ลเอสเพรสโซ

ชาวเวียนนายังเรียกเอสเพรสโซว่า ม็อคค่า (Mokka) ส่วนถ้าเป็นอเมริกาโน่ ก็ใช้คำว่า Verlangerter ซึ่งหมายถึงการเพิ่ม(น้ำ)เข้าไป ถ้าเป็นคอกาแฟสายฟิลเตอร์ ก็ต้องลอง Heferlkaffee หรือกาแฟดำที่ชงผ่านฟิลเตอร์ใส่ในถ้วยมัค เสิร์ฟพร้อมนม

มาถึงตรงนี้ ท่านผู้อ่านถูกจิตถูกใจกาแฟที่ยังมีชีวิตของเวียนนาและออสเตรียแก้วไหนกันบ้างครับ แต่จะลองชิมแก้วไหนกันก่อนดีละ หลากหลายมากมายกันเหลือเกิน สมแล้วที่ยูเนสโกให้การรับรองกาแฟเวียนนา ยกย่องให้เป็น ‘มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้’




July 04, 2020 at 08:00AM
https://ift.tt/31DOmCu

เปิดเมนู Vienna Coffee ตัวแม่ 'กาแฟ' สายวิปครีม - กรุงเทพธุรกิจ

https://ift.tt/36f79nS


Bagikan Berita Ini

1 Response to "เปิดเมนู Vienna Coffee ตัวแม่ 'กาแฟ' สายวิปครีม - กรุงเทพธุรกิจ"

  1. mari coba keberuntungannya bersama kami hanya dengan
    deposit minimal 20.000 bisa menangkan uang jutaan rupiah
    ditunggu apalagi, segera bergabung bersama kami di IONQQ".COM
    Sedia deposit pulsa juga (min 25rb)

    ReplyDelete

Powered by Blogger.